ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การเลือกใช้ PSU ( Power Supply Unit ) สำหรับคอมพิวเตอร์

   แหล่งจ่ายไฟ หรือ Power supply unit (PSU) เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในคอมพิวเตอร์ เพราะเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ ในวันนี้จะมายกตัวอย่างการคำนวณและเลือกใช้ Power supply กันครับ


   ขั้นตอนการเลือก Power supply มาใช้กับชุดคอมพิวเตอร์ของเรานั้นถ้าจะให้ดีที่สุดต้องมีการคำนวณการกินไฟรวมของอุปกรณ์ต่างๆเสียก่อน เริ่มตั้งแต่

CPU อัตราการกินไฟของ CPU นั้น ไม่มีการบอกว่ากี่วัตต์ เพียงแต่บอกเป็นลักษณะของการกำเนิดความร้อน หรือ Thermal designed power (TDP) ซึ่งในทางทฤษฎี การใช้พลังงานหรือการกินไฟของ CPU จะน้อยกว่า Maximum TDP  ซึ่งการเลือกใช้ค่า TDP ของ CPU นั้นสามารถนำค่านี้ไปเลือกซื้อระบบระบายความร้อนได้อีกด้วย

Motherboard หรือที่เรียกกันอย่างติดหูว่า เมนบอร์ด  อุปกรณ์ชิ้นนี้มีหลากหลายขนาดและหลายมาตรฐาน โดยทั่วไปอัตราการกินไฟของบอร์ดทั่วไปจะอยู่ที่ 25-40 W และบอร์ดแบบ High end จะกินไฟอยู่ที่ 45 - 80W 

HDD/SSD    โดยทั่วไป SSD จะกินไฟประมาณ 0.6- 2.8 W ส่วน Hard disk ขนาด 2.5 นิ้ว จะกินไฟที่ 0.7 - 3 W และ Hard disk ขนาด 3.5 นิ้ว จะกินไฟประมาณ 6 - 10 W
VGA หรือการ์ดแสดงผล เรียกอีกอย่างคือ การ์ดจอ เป็นส่วนที่กินไฟมากที่สุดในบรรดาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปจะมีอัตราการกินไฟหรือ Recommended PSU ระบุไว้ที่ตัว Package ส่วนการกินไฟ สามารถจำแนกคร่าวๆได้ดังนี้
 การ์ดใบเล็กแบบ Low profile หรือ Low end  graphic card จะกินไฟสูงสุดไม่เกิน 86W
 การ์ดขนาดกลาง  หรือ Mid end graphic card  จะกินไฟสูงสุดไม่เกิน 164W
 การ์ดขนาดใหญ่ หรือ High end graphic card  จะกินไฟสูงสุดไม่เกิน 258W
 การ์ดเรือธงหรือการ์ดพิเศษ หรือ Top end graphic card จะกินไฟสูงสุดไม่เกิน 350W

Ram การกินไฟของแรมนั้นหากเป็นแรมชนิด DDR จะกินไฟแถวละประมาณ 4-5.5W หากเป็น DDR2 จะกินไฟแถวละประมาณ 3 - 4.5W และหากเป็น DDR3 และ DDR4 จะกินไฟแถวละประมาณ 2-3 W

Cooling System เช่น พัดลม ให้นำ V มาคูณกับ I จะได้กำลัง W เช่น 12V 0.25A จะได้ 12 x 0.25 = 3W เป็นต้น

Accessories เช่น DVD/Blue-ray Drive  มีค่าการกินไฟประมาณ 30W

นำข้อมูลอุปกรณ์ต่างๆใส่ตารางเพื่อหาการกินไฟรวม ตัวอย่างเช่น
CPU= 125W
MB= 80W
SSD/HDD = 30W
VGA = 350W
RAM  = 12W
Cooling system= 30W
Accessories = 30W
Total = 657W
**675W คืออัตราการบริโภคไฟฟ้าสูงสุดที่ Peak load ของอุปกรณ์ชุดนี้ หาหเป็นการใช้งานทั่วไปจะมีการใช้พลังงานอยู่ที่ 25-40% ของ Peak load** 

    โดยทั่วไปจะต้องทราบก่อนว่าจะใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ในลักษณะใด เช่น ใช้คำนวณผลทางวิศวกรรม ตลอดเวลาที่ Peak load หรือ ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ ตลอดจนใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน  ในกรณีหลังจะใช้พลังงานเพียงแค่ 40% ของ 675W นั่นคือ 270W เท่านั้น

เมื่อได้วัตต์(W)รวม ก็มาถึงการเลือกซื้อ Power supply ซึ่งหากจะใช้ Power supply ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ PSU ที่คิดจะเลือกมาใช้งาน โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต  เช่น


PSU ตัวนี้ มี Capacity ที่ 850W โดยที่ หากใช้งานที่ 100% จะมีประสิทธิภาพการจ่ายไฟอยู่ที่ 87.08% และหากจะใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต้องใช้ที่ Load 50% ของกำลัง Capacity ของ PSU นั่นคือ 425W และหากมีการใช้งานที่ 20% ของ Capacity PSU ตัวนี้จะมีประสิทธิภาพการจ่ายไฟที่ 89.06 %

และ PSU อีกตัวที่สนใจจะนำมาใช้งานคือ

จะเห็นได้ว่า PSU ตัวนี้มีอัตราการจ่ายไฟฟ้าได้สูงกว่า คือ 1050W และมีประสิทธิภาพโหลดที่ 50% สูงสุดที่ 89.65%

โจทย์ของเราคือ อัตราการใช้ไฟสูงสุดของเรามีค่า 675W และใช้งานทางวิศวกรรม คำนวณผลตลอดเวลา ที่โหลดมากกว่า 90% ( ในกรณีนี้สามารถใช้ค่า 675W มาคภนวณหา PSU ได้เลย )

จากข้อมูลของผู้ผลิตทั้ง 2 เจ้า หากเราจะใช้งานให้ PSU มีประสิทธิภาพการจ่ายไฟสูงที่สุด ต้องใช้งานที่ 50% ของ Capacity นั่นคือ ตัวพิกัด 850W ต้องใช้ที่ 425W และตัว 1050W จะต้องใช้งานที่ 525W

เราจะพบว่า 625W มีค่ามากกว่าพิกัด 50% ของ PSU ทั้งสองตัว  ซึ่ง 625 W จะอยู่ในช่วง 50% - 100%
ของ PSU ทั้งสองตัว และค่าที่จะตัดสินในการเลือกใช้งาน PSU ของเราก็คือ PSU ตัวแรก ขนาด 850W เพราะหากใช้งานที่ 100% ของโหลด จะสามารถให้ประสิทธิภาพการจ่ายไฟได้สูงถึง 87.08% ซึ่งมากกว่า PSU ตัวที่สอง ที่สามารถทำได้ที่ 85.74% ซึ่งแน่นอนว่า ค่าตั้งต้นที่ 50% และค่าสุดท้ายที่ 100% เป็นไปตามแนวโน้มเดียวกัน คือ PSU ตัวที่สอง มีประสิทธิภาพน้อยกว่าในช่วงการจ่ายไฟดังกล่าวที่ยกมาพิจารณา 

นี่เป็นตัวอย่างของการเลือกใช้งาน PSU ให้เหมาะสมซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าและประหยัดงบประมาณได้เป็นอย่างดี

References
1.http://www.pc-specs.com/psu/Corsair/Corsair_HX1050_1050W/169
2.http://www.pc-specs.com/psu/XFX/XFX_Core_Edition_PRO_850W/30
3.http://www.buildcomputers.net/power-consumption-of-pc-components.html
4.https://www.intel.com/content/www/us/en/support/articles/000055611/processors.html
5.https://www.anandtech.com/show/2624/debunking-power-supply-myths/3







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รวมปุ่มลัด และคำสั่ง SolidWorks ในหมวดต่างๆ พร้อมไอคอนและชื่อคำสั่ง

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน โปรแกรม 3 มิติ ที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ที่ไม่ต้องบอกก็ทราบว่าคือโปรแกรมอะไร การฝึกฝนและจดจำคำสั่งสำหรับผู้เริ่มต้นจะเป็นอะไรที่ค่อนค่างยุ่งยาก จึงขอสรุปเป็นภาพและนำมาฝากทุกท่านครับ ขอให้ทุกท่านบรรลุผลในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการ ท่านสามารถพิมพ์เป็นเอกสารหรือบันทึกเก็บไปใช้ได้ตามความประสงค์ ขอบคุณที่มาของเอกสารด้วยครับ

ขนาดของเพลาและขนาดร่องลิ่ม

            หลายครั้งที่ผู้เขียนไปวัดแบบเครื่องจักรที่มีส่วนประกอบของเพลาและร่องลิ่ม จึงขอนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องร่องลิ่มมาฝาก โดยในบทความนี้ไม่ขอลงลึกในส่วนการคำนวณ หรือสูตรต่างๆ แต่ขอยกวิธีการใช้งานมาเลย นั่นคือ เพลาขนาดเท่าไหร่ จึงจะใช้ร่องลิ่มขนาดที่สัมพันธ์กัน โดยอาศัยตารางที่แนบมานี้ หวังว่า พี่น้องชาววิศวกรออกแบบทุกท่าน คงจะออกแบบได้ง่ายขึ้น  หรือ ท่านผู้อ่านสามารถดาวน์โหลด App ไปใช้งานบนอุปกรณ์ Android กันได้ง่ายๆ เกี่ยวกับขนาดเพลาและร่องลิ่ม ราคาแอปพลิเคชั่นแค่ 13 บาท จากที่นี่  https://play.google.com/store/apps/details?id=com.appybuilder.Anuwat_Kongpan.Shaft_and_Key   สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิศวกรรมได้ที่นี่ครับ

การออกแบบ Screw Conveyor

สกรูคอนเวย์เยอร์ คืออะไร? คาดว่าทุกท่านคงรู้จักกันดี เป็นเกลียวหมุนอยู่ในรางหรือในท่อทรงกลม เพื่อลำเลียงวัสดุบางอย่างตามที่ออกแบบคำนวณไว้ ส่วนประกอบต่างๆมีดังนี้ ประวัติของสกรูคอนเวย์เยอร์นี้ มียาวนานมาก สมัยอาร์คีมีดีส ผันน้ำตั้งแต่ก่อนเริ่มศาสนจักรไป 267 ปี เชียวนะ ( จริงๆ นะ )  มีหลายแบบ ทั้งแบบมีเพลาและไม่มีเพลา ( Ribbon ) ขึ้นอยู่กับว่าเราออกแบบเพื่อลำเลียงอะไร ข้อได้เปรียบของสกรูคอนเวย์เยอร์คือ 1.สร้างง่าย 2.น้ำหนักเบา 3.ใช้พื้นที่น้อย 4.ต้นทุนการทำงานต่ำ 5.ลำเลียงวัสดุได้หลายหลาก 6.ลำเลียงได้ทุกองศาตั้งแต่แนวราบจนถึงแนวดิ่ง ความเลวของสกรูคอนเวย์เยอร์ ( 55 ) 1.มีการสึกหรอของรางที่เสียดสีกับวัสดุ 2.วัสดุที่ลำเลียงอาจถูกกระทบโดนใบสกรู 3.ความแข็งแรงขึ้นกับวัสดุที่ขนถ่าย อาจจะใชำกำลังไฟฟ้ามากในบางกรณี Parameter ต่างๆที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ 1.Screw Pitch คือระยะพิทช์ของใบสกรูนั่นเอง 2.RPM of screw คือ รอบการหมุนของใบสกรูลำเลียง 3.Inclination Factor ค่าแฟคเตอร์มุม หรือ ค่า C  4.Loading efficiency ค่านี้ดูได้จากวัสดุกัดกร่อนม...