ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตัวเลขต่างๆที่สำคัญที่นักออกแบบต้องทราบ

 มีตัวเลขหรือชุดตัวเลขหลายชุดที่นักออกแบบหรือนักประดิษฐ์นิยมใช้ เนื่องจากมีความสำคัญทางคณิตศาสตร์และการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับความสมดุล ความสวยงาม และการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือบางตัวเลขที่มีความสำคัญและความหมายที่น่าสนใจ:

  1. เลขฟีโบนัชชี (Fibonacci Sequence):

    • ลำดับฟีโบนัชชีคือ ลำดับตัวเลขที่แต่ละตัวเลขคือผลบวกของสองตัวเลขก่อนหน้า เริ่มต้นจาก 0, 1 เช่น 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, ...
    • ใช้ในงานออกแบบเนื่องจากมักพบในธรรมชาติ เช่น รูปแบบการเจริญเติบโตของพืช และโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต ทำให้การออกแบบที่ใช้ลำดับนี้ดูเป็นธรรมชาติและสมดุล
  2. อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio, φ):

    • อัตราส่วนทองคำประมาณ 1.6180339887 และมักใช้ในการออกแบบเพื่อสร้างความสวยงามและสมดุล พบในศิลปะ สถาปัตยกรรม และการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ
    • อัตราส่วนนี้สามารถพบได้ในธรรมชาติและมักใช้ในการวางเลย์เอาต์ขององค์ประกอบต่างๆ เช่น ในการออกแบบกราฟิก เว็บไซต์ และการถ่ายภาพ
  3. เลขพาย (π, Pi):

    • ค่าประมาณ 3.14159 และเป็นค่าคงที่ทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวงกลม คือ อัตราส่วนของเส้นรอบวงต่อเส้นผ่านศูนย์กลาง
    • ใช้ในการคำนวณพื้นที่และปริมาตรของรูปทรงที่เกี่ยวข้องกับวงกลมและทรงกลม เช่น ในงานวิศวกรรมและการออกแบบเครื่องจักร
  4. เลขออยเลอร์ (e):

    • ค่าประมาณ 2.71828 และเป็นฐานของลอการิทึมธรรมชาติ ใช้ในการคำนวณเกี่ยวกับการเจริญเติบโตแบบเอ็กซ์โปเนนเชียล เช่น ดอกเบี้ยทบต้นและการสลายของสารกัมมันตรังสี
    • มีความสำคัญในทางคณิตศาสตร์และการประยุกต์ใช้ในงานวิศวกรรมและฟิสิกส์
  5. ค่าคงที่ไฟน์ (Fine Structure Constant, α):

    • ค่าประมาณ 1/137 และมีความสำคัญในทางฟิสิกส์เกี่ยวกับโครงสร้างของอะตอมและปฏิกิริยาระหว่างอนุภาค
    • ใช้ในการออกแบบวัสดุและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับนาโนเทคโนโลยีและการวิจัยเกี่ยวกับฟิสิกส์เชิงควอนตัม

ตัวเลขเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากทั้งในเชิงทฤษฎีและการปฏิบัติในหลายสาขา ตั้งแต่งานออกแบบ งานวิศวกรรม ไปจนถึงวิทยาศาสตร์พื้นฐาน การใช้ตัวเลขเหล่านี้ช่วยให้การออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพและสวยงามตามหลักการทางธรรมชาติและคณิตศาสตร์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รวมปุ่มลัด และคำสั่ง SolidWorks ในหมวดต่างๆ พร้อมไอคอนและชื่อคำสั่ง

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน โปรแกรม 3 มิติ ที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ที่ไม่ต้องบอกก็ทราบว่าคือโปรแกรมอะไร การฝึกฝนและจดจำคำสั่งสำหรับผู้เริ่มต้นจะเป็นอะไรที่ค่อนค่างยุ่งยาก จึงขอสรุปเป็นภาพและนำมาฝากทุกท่านครับ ขอให้ทุกท่านบรรลุผลในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการ ท่านสามารถพิมพ์เป็นเอกสารหรือบันทึกเก็บไปใช้ได้ตามความประสงค์ ขอบคุณที่มาของเอกสารด้วยครับ

ขนาดของเพลาและขนาดร่องลิ่ม

            หลายครั้งที่ผู้เขียนไปวัดแบบเครื่องจักรที่มีส่วนประกอบของเพลาและร่องลิ่ม จึงขอนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องร่องลิ่มมาฝาก โดยในบทความนี้ไม่ขอลงลึกในส่วนการคำนวณ หรือสูตรต่างๆ แต่ขอยกวิธีการใช้งานมาเลย นั่นคือ เพลาขนาดเท่าไหร่ จึงจะใช้ร่องลิ่มขนาดที่สัมพันธ์กัน โดยอาศัยตารางที่แนบมานี้ หวังว่า พี่น้องชาววิศวกรออกแบบทุกท่าน คงจะออกแบบได้ง่ายขึ้น  หรือ ท่านผู้อ่านสามารถดาวน์โหลด App ไปใช้งานบนอุปกรณ์ Android กันได้ง่ายๆ เกี่ยวกับขนาดเพลาและร่องลิ่ม ราคาแอปพลิเคชั่นแค่ 13 บาท จากที่นี่  https://play.google.com/store/apps/details?id=com.appybuilder.Anuwat_Kongpan.Shaft_and_Key   สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิศวกรรมได้ที่นี่ครับ

การออกแบบ Screw Conveyor

สกรูคอนเวย์เยอร์ คืออะไร? คาดว่าทุกท่านคงรู้จักกันดี เป็นเกลียวหมุนอยู่ในรางหรือในท่อทรงกลม เพื่อลำเลียงวัสดุบางอย่างตามที่ออกแบบคำนวณไว้ ส่วนประกอบต่างๆมีดังนี้ ประวัติของสกรูคอนเวย์เยอร์นี้ มียาวนานมาก สมัยอาร์คีมีดีส ผันน้ำตั้งแต่ก่อนเริ่มศาสนจักรไป 267 ปี เชียวนะ ( จริงๆ นะ )  มีหลายแบบ ทั้งแบบมีเพลาและไม่มีเพลา ( Ribbon ) ขึ้นอยู่กับว่าเราออกแบบเพื่อลำเลียงอะไร ข้อได้เปรียบของสกรูคอนเวย์เยอร์คือ 1.สร้างง่าย 2.น้ำหนักเบา 3.ใช้พื้นที่น้อย 4.ต้นทุนการทำงานต่ำ 5.ลำเลียงวัสดุได้หลายหลาก 6.ลำเลียงได้ทุกองศาตั้งแต่แนวราบจนถึงแนวดิ่ง ความเลวของสกรูคอนเวย์เยอร์ ( 55 ) 1.มีการสึกหรอของรางที่เสียดสีกับวัสดุ 2.วัสดุที่ลำเลียงอาจถูกกระทบโดนใบสกรู 3.ความแข็งแรงขึ้นกับวัสดุที่ขนถ่าย อาจจะใชำกำลังไฟฟ้ามากในบางกรณี Parameter ต่างๆที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ 1.Screw Pitch คือระยะพิทช์ของใบสกรูนั่นเอง 2.RPM of screw คือ รอบการหมุนของใบสกรูลำเลียง 3.Inclination Factor ค่าแฟคเตอร์มุม หรือ ค่า C  4.Loading efficiency ค่านี้ดูได้จากวัสดุกัดกร่อนมากหรือน้อ