ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชุดตัวเลขที่ นิโคลา เทสลา ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

 นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla) เป็นนักประดิษฐ์และนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเชื่อมั่นในพลังของตัวเลขและรูปแบบทางคณิตศาสตร์ ตัวเลขที่เขามักจะพูดถึงและให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือเลข 3, 6 และ 9 ตัวเลขเหล่านี้มีความหมายและความสำคัญในหลายมุมมอง ดังนี้:

เลข 3

  • ความสมบูรณ์และความกลมกลืน: เลข 3 มักจะเกี่ยวข้องกับสามสิ่งที่สมบูรณ์ เช่น สามภาคของเวลา (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) สามมิติของอวกาศ (ความกว้าง ความยาว ความสูง) และสามองค์ประกอบพื้นฐาน (ดิน น้ำ ลม)
  • ศาสนาและจิตวิญญาณ: ในหลายศาสนา เลข 3 มีความสำคัญ เช่น ในศาสนาคริสต์มีความหมายถึง พระบิดา พระบุตร และพระจิต
  • รูปแบบและโครงสร้าง: เลข 3 เป็นพื้นฐานของรูปทรงสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นโครงสร้างที่แข็งแรงและเสถียรที่สุดในธรรมชาติ

เลข 6

  • ความสมดุลและความกลมกลืน: เลข 6 มักจะสื่อถึงความสมดุลและความกลมกลืน เช่น การมีทั้งดีและชั่ว และการมีทั้งความมืดและแสงสว่าง
  • คณิตศาสตร์และรูปทรง: ในเรขาคณิต เลข 6 เชื่อมโยงกับรูปทรงหกเหลี่ยม ซึ่งพบได้ในธรรมชาติ เช่น รังผึ้ง

เลข 9

  • การเสร็จสมบูรณ์และการเกิดใหม่: เลข 9 มักจะหมายถึงการเสร็จสมบูรณ์หรือการปิดฉาก เช่น การตั้งครรภ์ 9 เดือน
  • พลังและการแปลงรูป: เลข 9 มีความหมายถึงพลังการแปลงรูปและการรีไซเคิล เนื่องจากเมื่อนำเลข 9 ไปคูณกับตัวเลขใดๆ แล้วผลรวมของตัวเลขในผลลัพธ์จะกลับมาเป็นเลข 9 (เช่น 9 x 2 = 18, 1 + 8 = 9)

ความหมายที่เทสลาให้ความสำคัญ

  • พลังงานรูปแบบและการเชื่อมโยง: เทสลาเชื่อว่าตัวเลข 3, 6 และ 9 มีความสำคัญในการเข้าใจพลังงานรูปแบบและการเชื่อมโยงกันของจักรวาล เขาเคยกล่าวว่า “ถ้าคุณรู้ความยิ่งใหญ่ของ 3, 6 และ 9 คุณจะมีกุญแจไขความลับของจักรวาล”
  • การประดิษฐ์และการทดลอง: เทสลามักจะใช้เลข 3, 6 และ 9 ในการตั้งค่าและออกแบบการทดลองต่างๆ เช่น เขามักจะเดินรอบตึกสามครั้งก่อนจะเข้ามาข้างใน หรือต้องการมี 18 ผ้าเช็ดตัว (ซึ่งเป็นผลคูณของ 9)

การที่เทสลาให้ความสำคัญกับตัวเลขเหล่านี้ทำให้เกิดการเชื่อมโยงกับแนวคิดทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และจิตวิญญาณ ซึ่งสะท้อนถึงความลึกซึ้งและความละเอียดอ่อนในแนวคิดและการทำงานของเขา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รวมปุ่มลัด และคำสั่ง SolidWorks ในหมวดต่างๆ พร้อมไอคอนและชื่อคำสั่ง

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน โปรแกรม 3 มิติ ที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ที่ไม่ต้องบอกก็ทราบว่าคือโปรแกรมอะไร การฝึกฝนและจดจำคำสั่งสำหรับผู้เริ่มต้นจะเป็นอะไรที่ค่อนค่างยุ่งยาก จึงขอสรุปเป็นภาพและนำมาฝากทุกท่านครับ ขอให้ทุกท่านบรรลุผลในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการ ท่านสามารถพิมพ์เป็นเอกสารหรือบันทึกเก็บไปใช้ได้ตามความประสงค์ ขอบคุณที่มาของเอกสารด้วยครับ

ขนาดของเพลาและขนาดร่องลิ่ม

            หลายครั้งที่ผู้เขียนไปวัดแบบเครื่องจักรที่มีส่วนประกอบของเพลาและร่องลิ่ม จึงขอนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องร่องลิ่มมาฝาก โดยในบทความนี้ไม่ขอลงลึกในส่วนการคำนวณ หรือสูตรต่างๆ แต่ขอยกวิธีการใช้งานมาเลย นั่นคือ เพลาขนาดเท่าไหร่ จึงจะใช้ร่องลิ่มขนาดที่สัมพันธ์กัน โดยอาศัยตารางที่แนบมานี้ หวังว่า พี่น้องชาววิศวกรออกแบบทุกท่าน คงจะออกแบบได้ง่ายขึ้น  หรือ ท่านผู้อ่านสามารถดาวน์โหลด App ไปใช้งานบนอุปกรณ์ Android กันได้ง่ายๆ เกี่ยวกับขนาดเพลาและร่องลิ่ม ราคาแอปพลิเคชั่นแค่ 13 บาท จากที่นี่  https://play.google.com/store/apps/details?id=com.appybuilder.Anuwat_Kongpan.Shaft_and_Key   สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิศวกรรมได้ที่นี่ครับ

การออกแบบ Screw Conveyor

สกรูคอนเวย์เยอร์ คืออะไร? คาดว่าทุกท่านคงรู้จักกันดี เป็นเกลียวหมุนอยู่ในรางหรือในท่อทรงกลม เพื่อลำเลียงวัสดุบางอย่างตามที่ออกแบบคำนวณไว้ ส่วนประกอบต่างๆมีดังนี้ ประวัติของสกรูคอนเวย์เยอร์นี้ มียาวนานมาก สมัยอาร์คีมีดีส ผันน้ำตั้งแต่ก่อนเริ่มศาสนจักรไป 267 ปี เชียวนะ ( จริงๆ นะ )  มีหลายแบบ ทั้งแบบมีเพลาและไม่มีเพลา ( Ribbon ) ขึ้นอยู่กับว่าเราออกแบบเพื่อลำเลียงอะไร ข้อได้เปรียบของสกรูคอนเวย์เยอร์คือ 1.สร้างง่าย 2.น้ำหนักเบา 3.ใช้พื้นที่น้อย 4.ต้นทุนการทำงานต่ำ 5.ลำเลียงวัสดุได้หลายหลาก 6.ลำเลียงได้ทุกองศาตั้งแต่แนวราบจนถึงแนวดิ่ง ความเลวของสกรูคอนเวย์เยอร์ ( 55 ) 1.มีการสึกหรอของรางที่เสียดสีกับวัสดุ 2.วัสดุที่ลำเลียงอาจถูกกระทบโดนใบสกรู 3.ความแข็งแรงขึ้นกับวัสดุที่ขนถ่าย อาจจะใชำกำลังไฟฟ้ามากในบางกรณี Parameter ต่างๆที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ 1.Screw Pitch คือระยะพิทช์ของใบสกรูนั่นเอง 2.RPM of screw คือ รอบการหมุนของใบสกรูลำเลียง 3.Inclination Factor ค่าแฟคเตอร์มุม หรือ ค่า C  4.Loading efficiency ค่านี้ดูได้จากวัสดุกัดกร่อนมากหรือน้อ